Singapore 2 days trip สิงค์โปร์ 2 วัน หนึ่งหมื่น มีทอน - Day 1



Day 1
เริ่มต้นเดินทางโดยสายการบิน low cost ราคาประหยัด เดี๋ยวนี้มีราคาโปรโมชั่นกระแทกตาเยอะมากไปกลับไม่ถึงสามพันบาท  เข้าไปเช็คตามหน้าเพจดังๆที่มีคนตามเยอะมากเช่น อาแปะดอทคอม หรือ เพจ ติดโปร เป็นต้น รับรองเห็นแล้วต้องใจสั่นมือลั่นกดจองรัวๆกันเลยทีเดียว ราคาตั๋วไป-กลับ ถูกกว่าบินไปภูเก็ตซะอีก เวลาในการเดินทางก็มีให้เลือกหลากหลาย ครั้งนี้เราได้เวลาดีออกจาก สนามบินดอนเมืองไฟร์ทแรก แปดโมงเช้าโดยแอร์เอเชีย ถึงสนามบินชางงี สิงค์โปร์สิบโมงเช้าพอดี 

สิงค์โปร์ เพิ่งเปิด Terminal 4 เมื่อปีที่ผ่านมา สำหรับรองรับสายการบินโลว์คอสโดยเฉพาะ ภายในสนามบินไม่ได้โลว์คอสตามเลย ทันสมัยมาก ตกแต่งด้วยต้นไม้สวยงามดูร่มรื่นแม้จะอยู่ในตัวอาคารก็ตาม กระเป๋าถูกส่งมาตามสายพานอย่างเป็นระเบียบ อาคารผู้โดยสารกว้างขวาง มีเคาท์เตอร์ให้นักท่องเที่ยวกรอกใบตม.ให้เสร็จก่อนนำไปยื่นผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะมีพนักงานสนามบินคอยให้ความช่วยเหลืออธิบายให้อย่างสุภาพ สมกับที่ได้รับการโหวตให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2018 โดยติดอันดับหนึ่งมาหกปีซ้อน




เมื่อผ่านระบบการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เราต้องนั่งรถ Shuttle Bus จาก Terminal 4 ไป Terminal 2 เพื่อต่อรถไฟฟ้า MRT เดินทางเข้าเมือง ซึ่งพอเดินออกมาจะเห็นป้าย Bus to T2 & MRT ชัดเจน ระหว่างรอรถมารับ ก็วางแผนการเดินทางไปพลาง แนะนำ link  http://journey.smrt.com.sg/journey  สำหรับการวางแผนการเดินทางโดย MRT ซึ่งสามารถทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางและเที่ยวได้อย่างสบายใจ



 ถึงสถานีรถไฟฟ้า MRT จัดแจงหาซื้อ บัตรโดยสารเพื่อใช้ตลอดทริปนี้ ครั้งนี้เราซื้อเป็นบัตร STP (The Singapore Tourist Pass) เป็นบัตรแบบเหมาจ่ายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวมา ต้องแนะนำให้บริการบัตรนี้เลยค่ะ เพราะสามารถใช้บริการได้ทั้ง MRT,LRT และรถเมล์ได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง จะขึ้นลงกี่รอบก็ได้ มีให้เลือกแบบ 1 วัน ราคา 10 เหรียญ แบบ 2 วัน ราคา 16 เหรียญ และแบบ 3 วัน ราคา 20 เหรียญ โดยจะมีค่ามัดจำบัตรเพิ่ม 10 เหรียญ บัตรมีอายุ 5 วัน หลังจากที่เราซื้อ เมื่อเราเอาไปคืนภายในกำหนดก็จะได้เงินค่ามัดจำคืน ถ้าคืนช้าก็อดได้เงินมัดจำคืนและตัวบัตรจะเปลี่ยนสถานะเป็นบัตร EZ Link ทันที หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://thesingaporetouristpass.com.sgSingapore tourist pass


ออกจากสนามบิน ตรงดิ่งเอากระเป๋าไปไปฝากไว้ที่โฮลเทล 5footway.inn Project Boat Quay Singapore  http://www.smile-lee.com/2018/07/5footwayinn-project-boay-quay-singapore.html  ที่จองไว้ก่อนเลย จัดการฝากกระเป๋า เช็คอินเสร็จแล้ว ท้องเริ่มหิวละไปหาข้าวเที่ยงทานแถวนี้ดีแหละ เดินจากโฮสเทลเลี้ยวซ้ายไปทางถนน New Bridge เดินไม่ถึง 500 เมตร ลอดอุโมงค์แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีก็ถึงร้านอาหารระดับมิชลินไกด์ Song Fa Bak Kuh Teh (สงฟา บั๊กกุ้ดเต๋) คนนั่งทานอาหารเต็มร้าน ต้องเข้าคิวรอประมาณ 10 นาทีก็ได้โต๊ะนั่ง สั่งบั๊กกุ้ดเต๋ ก่อนเลย ปาท่องโก๋ก็อร่อย กรอบ เค็มนิดๆ มื้อนี้สองคนรวม 31.70 เหรียญ (ประมาณเจ็ดร้อยแปดสิบบาท) อิ่มแปล้แล้วพร้อมเที่ยวต่อ


บ่ายนี้จะพาไปแอบส่องมหาวิทยาลัย Nanyang Technological University Singapore (NTU) ที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของเอเชีย จากการจัดอันดับของสถาบัน QS ประเทศอังกฤษปี 2018 โดยนั่ง MRT ไปลงที่สถานี Boon Lay แล้วเดินลงมาต่อรถที่ชุมทางรถเมล์ด้านล่างสถานี นั่งรถเมล์สาย 199 ยาวไปถึงข้างในมหาวิทยาลัยเลย ไม่ได้มองราคาตั๋วเพราะใช้บัตร STP อยู่แล้วดังนั้นจึงขึ้น-ลง อย่างสบายใจ การขึ้นรถเมล์สิงค์โปร์ ต้องนำบัตรไปอ่านที่เครื่องทั้งขึ้นและลงด้วยนะคะ


 เห็นการจัดการภายในสถานีรถเมล์ของประเทศนี้แล้วอยากลงสมัครผู้ว่า กทม.จะเอาไปเป็นแบบอย่างในการจัดระเบียบภายในบ้าง ...รถเมล์สาย 179 และ 199 จะผ่านเข้าไปในมหาวิทยาลัยซึ่งมีบริเวณพิ้นที่กว้างขวางมาก หอพักนักศึกษามีจำนวนหลายตึกและเงียบสงบ การเดินทางภายในมหาวิทยาลัย ต้องอาศัยรถเมล์ของมหาวิทยาลัยที่วิ่งวนทั้งวัน แต่ต้องรอประมาณ 15 นาที ดังนั้นถ้าใครใจร้อนก็ต้องใช้สกูตเตอร์ ซึ่งเห็นนักศึกษาใช้กันหลายคน

ตึกเรียนก็มีเยอะมาก มีคณะวิชาที่เปิดสอน 8 คณะ
  • วิทยาลัยบริหารธุรกิจหนานหยาง (Nanyang Business,School College of Business)
  • วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ (Collage of Engineering)
  • วิทยาลัยมนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และ สังคมศาสตร์ (Collage of Humanities,Arts,Social Sciences)
  • วิทยาลัยวิทยาศาสตร์ (Collage of Sciences)
  • สำนักวิชาแพทย์ศาสตร์ Lee Kong Chian (Lee Kong Chian School of Medicine-LKCSoM)
  • บัณฑิตวิทยาลัยสหวิทยาการ (Interdisciplinary Graduate School-IGS)
  • สถาบันการศึกษาแห่งชาติ (National Institute of Education-NIE)
  • วิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส ราชา รัตนัม (S. Rajaratnam School of International Studies)

ไม่สามารถเดินชมได้ครบจริงๆ เทคนิคการเดินในมหาวิทยาลัยหนานหยาง หรือนันยางที่เราคุ้นชื่อ ต้องเดินบนตึกซึ่งจะมีทางเชื่อมต่อกัน ทำให้เราเดินในแนวราบ ถ้าลงไปเดินที่พื้นดินด้านล่าง จะรู้สึกเหนื่อยมากเพราะมหาวิทยาลัยตั้งอยู่บนเนินเขา ดังนั้นตึกเรียนที่นี่จะเชื่อมต่อกันหมด

หนึ่งในบรรดาตึกเรียนที่คลาสสิคของมหาวิทยาลัยนันยาง คือตึกที่มีรูปทรงเหมือนเข่งปลาทู หรือเข่งติ่มซำนี่เอง ใครๆเห็นก็อดที่ถ่ายรูปไม่ได้ ใต้ตึกจะมีห้องสโมสรของมหาวิทยาลัย ขายของที่ระลึกทุกอย่าง ติดตรามหาวิทยาลัยแห่งนี้

ตึกพยาบาลดูภายนอกเล็กๆ แต่ภายในมีอุปกรณ์ครบเหมือนโรงพยาบาล มีคนเข้ามาใช้บริการเสมือนคลีนิคพิเศษ มีห้องทันตกรรม ห้องเอ็กซเรย์ ห้องหมอ ครบครัน 

สังเกตุเห็นแผ่นแนะนำในการตรวจปัสสาวะ จะไม่เหมือนบ้านเราที่ต้องรองปัสสาวะใส่กระบอกพลาสติกแล้วนำไปวางหน้าห้องน้ำ ที่นี่จะให้ปัสสาวะใส่แก้วแล้วนำแท่งตรวจจุ่มในน้ำปัสสาวะ จากนั้นเทปัสสาวะทิ้งแล้วเอาแท่งตรวจพร้อมแก้วคืน แล้วไปรอผลตรวจ

ถนนในมหาวิทยาลัยมีสี่เลน ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ ต้นใหญ่มีมอสที่ลำต้นเกือบทุกต้น บ่งบอกถึงสภาพอากาศที่เย็นและร่มรื่น สองข้างทางยังมีแบ่งเป็นทางให้สำหรับคนวิ่งหรือเดินออกกำลังกาย ไม่ต้องลงไปออกกำลังกายบนถนน เห็นนักศึกษาใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าเป็นพาหนะในการเดินทางไปยังตึกต่างๆ เพราะรวดเร็ว ไม่มีมลพิษ และไม่ต้องรอรถเมล์ซึ่งต้องรอค่อนข้างนาน อีกทั้งสกูตเตอร์ไฟฟ้าสามารถนำขึ้นรถไฟฟ้า MRT ได้ด้วย 

ตั้งแต่ผ่านเข้ามาในสิงค์โปร์ แทบจะพูดได้ว่าไม่มีพื้นที่ไหนที่ไม่มีต้นไม้ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศที่พาประเทศไปสู่ความเจริญควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี 
กลับจากมหาวิทยาลัย พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพอดี วันนี้ได้เหงื่อพอประมาณ แวะกินข้าวกล่องร้อนๆ หอมกลิ่นปิ้งย่างก่อนออกเดินทางต่อไปดู Rain forest Lumina ที่สวนสัตว์สิงค์โปร์ต่อ อาหารเย็นด่วนมื้อนี้ 17 เหรียญ

ออกเดินทางนั่งรถเมล์ต่อไปยัง Singapore Zoo เพราะจองตั๋วดู Rain Forest Lumina ไว้ตอนสามทุ่ม ค่าตั๋ว 22 เหรียญต่อคน เย็นนี้ฝนตกตลอดทาง ไปถึงสวนสัตว์ยิ่งตกหนักใหญ่เลย ต้องรอรอบใหม่เข้าไปดูโชว์ตอนประมาณสี่ทุ่ม ฝนก็ยังโปรยปรายสมกับธีม Rain Forest เลยไม่ค่อยมีภาพด้านในสวนสัตว์มาให้ดู


กลับจากสวนสัตว์ มุ่งตรงไปยังโฮสเทล พรุ่งนี้ยังต้องท่องสิงค์โปร์ด้วยงบประหยัด ดูซิว่ารวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด เจ๊จะหมดตัวไปเท่าไหร่



เรื่องกำลังดัง