One day in Mumbai หนึ่งวันในมุมไบ

One day in Mumbai หนึ่งวันในมุมไบ

มุมไบ
เคยมาอินเดียครั้งแรกเมื่อปี 2012 จากสนามบินเดินทางเข้ามาในเมืองเดลี รู้สึกตื่นเต้นและตาโต ไม่เคยเห็นอินเดียมาก่อน รู้สึกสนุกเมื่อได้ยินเสียงแตรรถดังสนั่นไปทุกด้านรอบตัว รถแต่ละคันจะเขียนคำโตๆติดรถ "Blow horn please" หมายถึงให้กดแตรเป็นสัญญาณในการจะแซงซ้าย แซงขวา หรือเตือนว่า"อีนี่ชั้นอยู่ข้างๆนะนายจ๋า" แต่พอผ่านไปได้ซักยี่สิบนาที เริ่มเปลี่ยนความรู้สึกไม่ค่อยสนุก หนวกหู จะบีบอะไรกันนักหนา(วะ) มุมไบก็ไม่ต่างกัน บนถนนจะได้ยินเสียงบีบแตรดังลั่น สังเกตุดู รถหลายๆคันจะไม่มีกระจกมองข้าง เหมือนไม่มีมาจากโรงงานเลย บางคันที่มีก็จะพับเก็บไม่ใช้ ใช้บีบแตรแทน รถคันหน้าเจอมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวเป็นรอย ก็แค่เปิดกระจกมาบ่นเสียงดังๆ ส่ายคอไปมาเล็กน้อย แล้วก็ไปต่อ เออ ใช้ชีวิตง่ายดี 
มุมไบ
ช่วงที่รถติดไฟแดง ก็จะมีคนมาเดินข้างๆรถ มองเข้ามาพร้อมกับจ้องตาไม่กระพริบ เหมือนจะบอกว่าใครหลบตาก่อน คนนั้นจ่าย ทำนองนั้น มุมไบวันนี้ ก็ไม่แตกต่างจากเดลีเมื่อวันนั้น ยังมีสายตาของเด็กผู้หญิงที่เรียกได้ว่ายากจนมากถึงมากที่สุด เดินมาขอทานเศษเงินตามรถที่จอดติดรอไฟแดง หน้าตากระเซอะกระเซิง แต่งตัวมอมแมม เสื้อผ้าผมเผ้าสกปรก ดูแล้วน่าสงสาร ต้องบอกว่าขอทานเมืองไทยจัดอยู่ในขั้นมีฐานุะดีได้เลย ที่เคยได้ยินมาว่าถ้ายื่นเงินให้ขอทานหนึ่งคน จะมีขอทานอีกหลายคนวิ่งตามมาเพื่อขอบ้างนั่น คือเรื่องจริง ความแตกต่างด้านฐานะมีให้เห็นอย่างชัดเจนเหมือนภาพขาว-ดำ 
มุมไบ
รถแท๊กซี่เป็นพาหนะที่สะดวกที่สุด สำหรับนักท่องเที่ยว แท๊กซี่แบบไม่มีแอร์ คิดราคาเริ่มต้นที่ 20 รูปี ประมาณเก้าบาท แล้วจะมีตารางคิดตามระยะทาง แนะนำว่าให้หาแท๊กซี่ที่มีมิเตอร์ติดแอร์ดีกว่า เอาที่มั่นใจว่าจะได้ราคาที่ค่อนข้างยุติธรรม จ่ายตามมิเตอร์ไปเลย ที่อินเดียถ้าคุณจมูกไม่โด่ง ตาไม่คม ไม่ห่มส่าหรี่ ราคาสินค้าทุกอย่างจะอัพเพิ่มขึ้นประมาณสี่-ห้าเท่าทันที ที่นี่หน้าตามีผลต่อราคาสินค้าพอสมควรค่ะ  ค่าทางด่วนอยู่ที่ 35 รูปี ขณะที่น้ำมันดีเซลลิตรละ 72 รูปี ก็ประมาณ 35 บาทไทย ถือว่าราคาแพงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ แต่ตู้เติมลมดูเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าบ้านเราแฮะ
มุมไบ
อาหารกินเล่นยอดนิยมชื่อ Pani Puri เป็นแป้งกลวงๆ เหมือนลูกปิงปองผ่าซีก กินกับเครื่องเคียงได้หลายอย่าง จะเห็นพ่อค้าเอาแป้งนี้ใส่ในตู้ และใส่บนรถเข็นเดินขายไปทั่ว มีคนขายขนมนี้กันเยอะมากพอๆ กับร้านขายก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา หันไปทางไหนก็เจอแต่ไม่ควรกินสุ่มสี่สุ่มห้า อาจจะท้องเสียได้ง่ายๆส่วนใหญ่คนขายจะเป็นผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นร้านรถเข็นข้างถนน หรือพนักงานขายในร้าน มักจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิงจะอยู่ทำงานบ้าน ทำทุกเรื่องในบ้าน ผู้ชายจะออกนอกบ้านหาเงิน ตามริมถนนตอนเช้า จะเห็นผู้ชายออกมายืนรวมกลุ่มกันข้างทาง เพื่อรอให้มีนายหน้ามาเรียกไปทำงานคล้ายๆกรรมกรรายวัน
มุมไบวันนี้ ยังพลุกพล่านไปด้วยรถบรรทุก รถมอเตอร์ไซค์ แท๊กซี่ คนเดินถนน การเดินข้ามถนนในอินเดียต้องอาศัยสติมากๆ รถไม่รู้มาจากทิศทางไหน มองระวังทางซ้าย ทางขวาก็พุ่งมา บีบแตรเสียงดังทั้งซ้ายขวา ไม่รู้ใครต้องหลบใคร พี่บังก็จะไม่จอดให้ ต้องเดินตัดหน้าเอาเอง เห็นควรว่าก่อนเดินทางมาเที่ยวอินเดียควรเพิ่มวงเงินประกันอุบัติเหตุทางถนนนะคะ

มุมไบ
ชายหาด เจาปัตตี Chowpatty Beach เป็นชายหาดที่อยู่ใน list ติดหนึ่งในสิบสถานที่ที่คนมาเที่ยวมมไบต้องมาที่นี่ พอมาถึงแล้วก็งง ถามตัวเองว่ามาทำไม ฮ่าฮ่า ชายหาดเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งคนขายของ ทั้งคนมาเที่ยวพักผ่อนแต่งตัวไม่เหมือนมาเที่ยวทะเล น้ำทะเลมีสีค่อนข้างดำ ไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นน้ำ ชายหาดจะไม่ค่อยสะอาดซักเท่าไหร่ ไม่มีการจัดระเบียบชายหาด ใครใคร่ขาย ขาย  ใครใคร่ทิ้ง ทิ้งเป็นการมาทะเลที่ไม่เห็นคนใส่ชุดว่ายน้ำเล่นน้ำทะเล
Chowpatty Beach Mumbai


มุมไบ
แผงขายของเล่นเห็นเดินขายทั่วไปตามชายหาด ในแผงยังอุตส่าห์เอาแตรมาขายด้วย นี่หลบจากเสียงแตรบนถนนมาถึงทะเล ยังไม่พ้นเสียงแตรอีก สงสารป้าแก แกคงนั่งขายที่นี่มานาน นั่งทนแดดทนฝน ทนทุกสภาวะ ถ้าถามป้าว่าร้อนมั๊ย ป้าคงตอบว่า"ไหม้" 
มุมไบ
อาหารชายทะเลอีกอย่างคือ ข้าวโพดปิ้ง เข้ากับบรรยากาศทะเลตรงไหน? หาคำตอบไม่ได้ 

แต่อยากจะบอกว่าอีนี่ อินเดีย ไม่มีโรตีขายนะนายจ๋า

เรื่องกำลังดัง