Sapa-Vietnam มองซาปา ผ่านกล้องมือถือ : Day2

มองซาปา ผ่านกล้องมือถือ : Day2

เช้าวันใหม่ในเมืองซาปา พระอาทิตย์โดนเมฒหมอกบดบัง แต่ยังคงมองเห็นวิวเมืองสวยๆสะท้อนผิวน้ำของเมืองซาปา เมืองเล็กๆบนยอดเขาแห่งนี้ บ้านเรือนตั้งอยู้ล้อมรอบสระน้ำกลางเมืองและสามารถเดินชมวิวโดยรอบสระน้ำได้ อากาศยามเช้าที่นี่สดชื่นมาก ตามลักษณะภูมิศาสตร์ประเทศเวียดนามจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนประเทศไทย 30 นาที แต่มาอยู่บนยอดเขาแห่งนี้บางวันอาจจะไม่เห็นพระอาทิตย์เลย

ตกปลายามเช้า ชีวิตแสนสุขของชาวซาปา

อากาศช่วงเดือนกันยายนจะขมุกขมัว เพราะยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ในช่วงที่เราเดินทางมาถึงเป็นช่วงที่พายุมังคุดกำลังกระหน่ำฮ่องกงและมาเก๊าอย่างรุนแรง ได้ยินข่าวว่าจะแวะมาขึ้นฝั่งที่เวียดนามด้วย เวียดนามเป็นประเทศที่โดนพายุพัดเข้าประเทศมากประเทศหนี่ง ปีที่ผ่านมาพายุเข้าทั้งหมด 18 ลูก คนเวียดนามจะนับพายุเป็นลูกๆไป เพราะไม่มีเวลาตั้งชื่อให้พายุ จบลูกนี้ ลูกต่อไปก็จ่อคิวเตรียมขึ้นฝั่ง ประเทศเวียดนามจึงเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำทั้งหมด 1600 กว่าสายแม่น้ำ แต่ละสายก็มีความกว้างมากกว่าแม่น้ำเจ้าพระยาเสียอีก  แม้กระทั่งบนภูเขาสูงก็มีน้ำไว้สำหรับทำการเกษตร ตามเส้นทางขึ้นมาซาปาจะเห็นมีน้ำตกขนาดใหญ่หลายที่ ชาวซาปาเลยสามารถทำนาบนที่สูงได้เรียกว่านาขั้นบันได เรียกว่าไม่เคยขาดแคลนน้ำเลย แต่แปลกตรงที่ดิน น้ำ อุดมสมบรูณ์แต่ผลไม้กลับปลูกไม่ค่อยได้ผล รสชาดจะสู้ผลไม้จากประเทศไทยไม่ได้ ดังนั้นเวียดนามจึงน้ำเข้าผลไม้จากประเทศไทยเข้ามาเป็นจำนวนมาก ปล.เวียดนามไม่มีมะกรูด และ ไม่มีแหนมเนืองนะจ๊ะ

PHO = เฝอ คนไทยจะคุ้นเคยกับเฝอ อาหารประจำชาติของเวียดนาม มีร้านที่ขายเฝอเป็นจำนวนมาก รสชาดก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของพ่อครัวแต่ละร้าน 

COM = ข้าว เห็นคำนี้ที่ไหน ที่นั่นคือร้านขายข้าว ไม่มีคอมพิวเตอร์ขาย อาหารเวียดนามโดยทั่วไปจะมีสองรสชาด คือ จืด และ จื้ดจืด ดังนั้นถ้าใครไม่ชอบรสชาดจืดๆ ก็ต้องเตรียมน้ำพริกใส่กระปุกมาจากเมืองไทย เหมือนร้านสุกี้ที่นี่ ได้น้ำจิ้มสุกี้จากเมืองไทยเติมแล้วบอกเลยว่า อร่อยเหาะ

โบสถ์คาทอลิกกลางเมือง เป็นจุดแลนด์มาร์คสำหรับเมืองซาปา จะเดินทางไปมา ต้องเอาตำแหน่งที่ตั้งของโบสถ์เป็นหลัก คนเวียดนาม 80% ไม่นับถือศาสนาใดๆ นับถือบรรพบุรุษ พ่อแม่ อีก 20% ที่เหลือนับถือศาสนาพุทธ คริสต์ และอื่นๆ คนที่เสียชีวิต 90% จะใช้วิธีฝัง และต้องซื้อที่ดินในการฝังซึ่งที่ดินในเวียดนามแพงกว่าประเทศไทยประมาณ30% ถ้ามองตามทุ่งนาจะเห็นมีสัญลักษณ์เหมือนฮวงซุ้ยเล็กๆ อยู่กระจัดกระจายตามท้องนา เพราะบางบ้านก็ฝังศพบรรพบุรุษในที่นาของตัวเองเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อที่สำหรับฝังศพ  ปล. หวยเวียดนามออกวันละสามรอบ และออกทุกวันด้วย

รถประจำทางวิ่งในจังหวัดเหล่าก๋าย ผ่านตามเมืองต่างๆ ขึ้นเขามาเรื่อยๆ จนหมดสิ้นระยะที่เมืองซาปา นักท่องเที่ยวแนว Back packer ก็สามารถนั่งรถจากต้นทางที่ซาปา แวะลงพักตามจุดที่สนใจได้ เห็นเมืองอยู่บนภุเขา แต่สภาพรถดีกว่ารถเมล์เมืองไทยเสียอีก

ยามเช้า จะเห็นนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงซาปา ลากกระเป๋าแบกเป้ เข้าที่พักกัน เพราะส่วนใหญ่จะเดินทางเวลากลางคืน จากฮานอยมาถึงเมืองซาปาก็เกือบจะรุ่งสางยิ่งช่วงเวลาที่มาช่วงนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางรถยนต์จะต้องเพิ่มเวลาการเดินทางมากขึ้นกว่าเดิมอีกหนึ่งชั่วโมงเนื่องจากถนนบางช่วงปิดเพื่อซ่อมสะพานที่พังเสียหายจากรถแก๊สเกิดอุบัติเหตุ รถไหม้เผาสะพานไปด้วย ทางการเวียดนามเลยต้องปิดซ่อมประมาณสองถึงสามเดือนกว่าจะกลับมาใช้ได้ 

ห่างออกไปจากเมืองซาปาไม่ไกล ประมาณสิบห้ากิโลเมตร จะมีน้ำตกขนาดใหญ่ชือน้ำตกสีเงิน Silver waterfall (Thac Bac) น้ำตกมีขนาดใหญ่และสูงมาก มองเห็นมาแต่ไกล แต่จะขึ้นไปด้านบนได้ต้องซื้อตั๋วเข้าชมประมาณ 3000 ดอง วันที่ไปถึงหมอกยังไม่ลงจัด จึงยังพอมองเห็นยอดไกลๆได้จากริมถนน

ของฝากจากเมืองซาปา นอกเหนือจากร้านก๊อปแบรนด์เนมที่มีอยู่ทุกซอก ทุกมุมในเมืองซาปา ที่ชอบมากคือผ้าปักลายด้วยมือจากชาวเขา มีทั้งผืนเล็กผืนใหญ่มีให้เลือกมากมายหลายหลาก ราคาก็ไม่แพง แถมต่อรองได้อีก ถ้าไม่ห่วงน้ำหนักตอนขึ้นเครื่องบิน จะแบกมาแจกเพื่อนๆให้ครบทุกคนเลย💗

https://www.smile-lee.com/2018/09/day11.html
www.smile-lee.com