Autumn in Hokkaido : เช่ารถขับมุ่งลงใต้เกาะฮอกไกโด

เที่ยวญุี่ปุ่นไม่ยาก ใช้ใจล้วนๆ ก่อนจองก็กลัวๆ กล้า คิดเยอะ ค่าใช้จ่ายจะบานมั๊ย ขับบนถนนหลวงต้องทำยังไง ถ้ารถมีอุบัติเหตุทำไง คิดสารพัดเพราะเป็นครั้งแรกในการขับรถในต่างประเทศม แต่ถามเพื่อนๆและลองไปหาข้อมูลใน ดร.พันทิพดู บทสรุปต้องเช่ารถขับเองนี่แหละคุ้มสุด

เริ่มตั้งแต่เข้าไปจองรถทาง internet ซึ่งมีให้เลือกหลายเอเย่นต์ ไปลองเดินดูข้อมูลในงานไทยเที่ยวไทย แล้วมาลองจองเองทางเว็บไซค์ของ Nippon rent a car https://www.nrgroup-global.com/en/เพราะดูเป็นเว็บที่เข้าใจง่ายดี แถมราคาดีกว่าที่จองผ่านเอเย่นต์อีกด้วย กดเข้าไปในเว็บ ก็เลือกวันที่รับรถ, สถานที่รับรถ, ขนาดรถ ที่เหมาะกับจำนวนคนเดินทาง และใส่ข้อมูลคนจองเท่านั้น จากนั้นก็จะได้รับ confirm กลับมาทางเมล์ รอเวลาเดินทาง

คนขับต้องมีใบขับขี่สากลด้วยน้า วิธีการขอรับใบขับขี่สากล ตาม link นี้เลย https://www.dlt.go.th/th/driving-license/view.php?_did=90
วันไปรับรถ ใช้แค่พาสปอร์ต ใบขับขี่สากลและบัตรเครดิตเท่านั้น
สถานที่รับรถ แล้วแต่สะดวกเลย ใน web site มีสาขาให้เราเลือกที่จะไปรับ หรืออยากคืนต่างเมืองก็ได้ ส่วนเราเลือกไปรับรถที่สถานี JR Sapporo North exit ซึ่งสะดวกมา เดินออกมาจากสถานีเลี้ยวซ้ายก็เจอ ศูนย์รับรถเลย

ตอนมาถึงสาขาที่รับรถ แค่ยื่นพาสปอร์ตให้ พนักงานเช็คชื่อในระบบก็จอข้อมูลที่เราจอง ก่อนมาเราจองเป็นรถขนาด 1500 CC เช้านี้ไปรับรถ พนักงานในสาขาที่ไปรับน่ารักมาก พูดภาษาอังกฤษคล่อง เห็นว่าเราจะเดินทางไกลและมากันหลายคน เลยเปลี่ยนรถเป็นคันใหญ่ให้ เป็น Toyota Alphard ขนาด 2500 CC ส่วนอีกคันอัพเกรดให้เป็น Subaru 1800 CC ให้โดยเป็นราคาของเครื่อง 1500 CC ที่จองตั้งแต่แรก

ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถ

ขึ้นอยู่กับขนาดรถ แต่ละขนาดก็จะแจ้งราคาไว้
ค่าเช่าเครื่อง ETC Card
ค่าประกัน มี 3 Options ให้เลือก แล้วแต่ว่าจะเลือก Full Options คุ้มครองทุกเรื่อง หรือคุ้มครองบางเรื่อง เราเลือก Option 1 และ Option 2 พอ
ค่าทางด่วนแบบเหมาจ่าย

ตอนรับรถ พนักงานจะถามความสมัครใจว่าต้องการเหมาจ่ายค่าทางด่วนมั๊ย ราคา 5,300 เยนใช้ได้สามวัน ตอบ Yes ไปเลยเพราะค่าทางด่วนถ้าจ่ายปกติจะแพงมาก แค่ไปฮาโกดาเตะ ก็เที่ยวละ 6,xxxx เยนเข้าไปเลย ราคา 5,300 เยนถือว่าคุ้มมากๆ ซึ่งเป็นราคาเหมาให้สำหรับนักท่องเที่ยว ..
เช่ารถแล้ว เหมาค่าทางด่วนแล้ว เช่าเครื่อง ETC การ์ดสำหรับอ่านบัตรทางด่วนแล้ว เหลือค่าน้ำมันที่ต้องไปจ่ายเอง พนักที่ศูนย์บอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะรถสมรรถนะดี ไม่เปลืองน้ำมัน และแนะนำวิธีเติมน้ำมัน กฏจราจรที่ควรทราบ และที่สำคัญ วิธีการใช้ GPS ในรถ

ทางศูนย์รถ ให้คู่มือแผนที และ Map Code สำหรับท่องเที่ยวในญุุี่ปุ่นมาหนึ่งเล่ม ทำให้การเดินทางง่ายและที่สำคัญแม่นยำมาก แค่ป้อนตัวเลข Map Code ที่เป็นตัวเลขซึ่งหน้าจอ GPS จะเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว หรือถ้าไม่มี Map Code สามารถป้อนเบอร์โทรศัพท์แทนได้ ไม่ต้องวุ่นวายกับ Google GPS เลยเพราะจะทำให้หลงโดยง่ายๆ อีกเรื่องที่พนักงานจะอธิบายให้ทราบคือเรื่องป้ายจราจรและสัญญาณไฟจราจร ทางธรรมดาใช้ความเร็ว 60-70 กม./ชม. ทางด่วนให้ใช้ความเร็ว 80-100 กม./ชม. แต่เห็นคนญุี่ปุ่นวิ่งกันเกิน 100 เยอะเลย